เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 3 ธันวาคม 2568 พ.ต.ต คชา อ่อนเหลา สารวัตรเวร สภ.ปากท่อ รับแจ้งเหตุรถตกคลองชลประทาน บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 4 ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ที่เกิดเหตุพบร่องรอยล้อรถครูดกับถนนลาดยางก่อนพุ่งตกลงไปในน้ำ เห็นเพียงหลังคารถโผล่พ้นน้ำ เจ้าหน้าที่จึงประสานรถยกนำขึ้นมาตรวจสอบ พบเป็นรถยนต์ ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ สภาพกระจกหน้าแตกและยางหลังด้านซ้ายระเบิด



ภายในห้องโดยสารพบร่างผู้เสียชีวิตนอนทับถมกันอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ประกอบด้วย พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.นฤดม มารศรี รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี และ พ.ต.อ.พศพงศ์ มณฑา ผกก.สภ.ปากท่อ เข้าร่วมตรวจสอบ เมื่อนำร่างออกมาพบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย เป็นชาย 8 ราย และหญิง 1 ราย ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าว โดยพบจุดสังเกตสำคัญคือ ที่ข้อมือขวาของผู้เสียชีวิตทุกรายมี "เชือกฟางสีฟ้า" ผูกไว้เป็นสัญลักษณ์ เบื้องต้นได้นำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช



จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า รถคันดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารมารวม 15 คน โดยมีผู้รอดชีวิตตะเกียกตะกายออกจากตัวรถได้ 6 คน เป็นชายล้วน หนึ่งในนั้นเป็นคนขับรถชาวไทย ส่วนที่เหลือคาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งจากการค้นเอกสารภายในรถ เจ้าหน้าที่ทราบตัวเจ้าของรถแล้ว เป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี เตรียมเรียกตัวมาสอบสวนว่าใครเป็นผู้ขับขี่ในช่วงเกิดเหตุ



สอบถามชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงดังสนั่นเมื่อหันไปดูเห็นรถพุ่งตกลงคลอง จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์มาดูเพื่อช่วยเหลือ เห็นคนว่ายน้ำขึ้นฝั่งมาได้ 4 คน และมีรถกระบะสีดำขับมารับตัวออกไปทันที ขณะที่ชาวบ้านอีกรายระบุว่า เมื่อเข้ามาถามไถ่กลุ่มคนที่ว่ายน้ำขึ้นมา ปรากฏว่าสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ แต่มีชายคนไทยหนึ่งคนตะโกนบอกว่า "ในรถยังมีอีกหลายคน" ก่อนจะรีบขึ้นรถกระบะสีดำหลบหนีไป



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า รถคันเกิดเหตุบรรทุกแรงงานมาถึง 15 คน ทำให้น้ำหนักเกินจนยางหลังระเบิดและเสียหลักพุ่งตกคลอง โดยกลุ่มผู้รอดชีวิต 6 ราย แบ่งเป็นขึ้นรถกระบะหลบหนีไป 4 ราย และวิ่งเท้าหลบหนีอีก 2 ราย ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อติดตามรถกระบะคันดังกล่าวและตัวคนขับรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป